ในวัฒนธรรมของชาวนอร์สแต่ดั้งเดิม มีการนับถือเฉพาะจอมเทพโอดินและมหาเทวีเฟรยาคู่กัน ในลักษณะของทวิเอกานุภาพมานานแล้ว
และในศาสตร์แห่งรูนส์ ที่ผมได้รับการถ่ายทอดมา ก็มีการบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสององค์นี้เป็นเทพบรมครู ซึ่งจากการที่ผมได้ใช้รูนส์ตามแนวทางนี้มาตลอดระยะเวลากว่ายี่สิบปี
เห็นชัดเลยนะครับ ว่าทั้งปรีชาญาณ (Wisdom) และพลังอำนาจของรูนส์
ไม่ว่าจะในการพยากรณ์ หรือการประกอบพิธีต่างๆ จะเห็นผลที่ชัดเจน ละเอียด
และลึกซึ้ง มากกว่าสายอื่นที่เขาแนะนำให้ใช้รูนส์โดยไม่บูชาเทพองค์ใดนะครับ
ผมจึงเห็นสมควรที่จะนำวิธีการปฏิบัติบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสององค์
ที่ได้นำเสนอเรื่องราว-คติความเชื่อโดยสังเขปไปแล้ว มาบรรจุไว้ในบทความนี้
เพื่อให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
สำหรับผู้ซึ่งต้องการจะประกอบกิจพิธีบูชาพระเทวรูปขององค์เทพทั้งสองให้ถูกต้อง
โดยไม่ต้องไปเสียเวลากับสำนักไสยศาสตร์ฉ้อฉลบางแห่ง ที่แต่งคัมภีร์ประเภทคิดเอาเอง
หรือแปลตำราฝรั่งมาผิดๆ ถูกๆ อีกต่อไป
แต่จำเป็นต้องขอให้ทำความเข้าใจร่วมกันไว้
ณ ที่นี้เสียก่อนนะครับ ว่า :
1.วิธีการต่างๆ
ที่นำมาเสนอนี้ เป็นสิ่งที่แนะนำให้ปฏิบัติในฐานะเรื่องส่วนบุคคลเท่านั้น
มิใช่สิ่งที่จะนำไปโชว์ผู้อื่นเพื่อโอ้อวด
หรือสั่งสอนใครต่อไป เพราะการที่จะทำเช่นนั้นได้ในความเป็นจริง ต้องศึกษากันอีกมาก
เฉพาะแค่บทความนี้ ไม่มีทางทำให้ใครกลายเป็นผู้วิเศษขึ้นมาได้เป็นอันขาด
2.วิธีการต่างๆ
ที่นำมาเสนอนี้ มิใช่เป็นวิธีเดียวเท่านั้นที่ถูกต้อง
วิธีอื่นของสำนักอื่นที่ถูกต้องยังมีอีก
ผู้ศึกษาที่มีความพากเพียรจริงจะได้ค้นพบในกาลข้างหน้า
ตอนนี้เริ่มต้นอย่างนี้ไปก่อน ไม่ง่ายและไม่ยาก เป็นการวัดใจกันได้ระดับหนึ่งครับ
แล้วถ้ามีพื้นฐานที่เพียงพอ จะไปต่อยอดที่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา
3.วิธีการต่างๆ
ที่นำมาเสนอนี้
ไม่อนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดคัดลอกไปเผยแพร่ที่อื่นโดยอ้างว่าเป็นของสาธารณะ
เพราะบางส่วนเป็นรูปแบบเฉพาะของสำนักที่ผมได้รับการถ่ายทอดมาโดยตรง
ไม่ใช่แบบอย่างที่มีการเผยแพร่กันอยู่ทั่วไป
4.วิธีการต่างๆ
ที่นำมาเสนอนี้ ไม่อนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดนำไปใช้เป็นเครื่องมือหลอกลวงผู้อื่น ว่าตนเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการถ่ายทอดเทวศาสตร์อาซาทรูมาโดยตรง
เพื่อประโยชน์ในทางธุรกิจที่เกี่ยวกับเทวรูปและวัตถุมงคลใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อเข้าใจร่วมกันได้ดังนี้แล้ว
ก็ได้เวลาสำหรับการก้าวเข้าสู่โลกแห่งเทวศาสตร์อาซาทรูอย่างจริงจังเสียทีนะครับ
ห้องบูชา
ได้กล่าวในบทความก่อนหน้านี้แล้วว่า
พิธีกรรมในลัทธิศาสนาอาซาทรูนั้น โดยมากจัดขึ้นกลางแจ้ง
และสถานที่ประกอบพิธีกรรมจะต้องมีต้นไม้ใหญ่สำหรับเป็นสัญลักษณ์แทนพฤกษาโลก
ซึ่งในทวีปยุโรปไม่เป็นการลำบากที่จะใช้ต้นโอ๊คหรือต้นแอช
ภาพจาก http://en.wikipedia.org |
แต่ในบ้านเราแล้วคงเป็นไปไม่ได้
ดังนั้นจึงต้องจัดเตรียมห้องสำหรับการประกอบพิธีกรรมดังกล่าวโดยเฉพาะ
ห้องที่ว่านี้ควรมีความเป็นส่วนตัวมากเพียงพอ
อย่างน้อยเวลาประกอบพิธีควรปลอดจากการรู้เห็นของคนอื่นนะครับ
เพราะยิ่งมีคนรู้เห็นการประกอบพิธีกรรมของเราน้อยเท่าไร ยิ่งดีเท่านั้น
แต่ก็ควรเป็นห้องที่มีอากาศถ่ายเท
และมีแสงเข้าจากทิศตะวันออกด้วย (อย่าเลือกห้องที่มีหน้าต่างในแนวเหนือ-ใต้)
ดังนั้นถ้าห้องนอนไม่ซกมกจนเกินไป
ใช้ห้องนอนได้ครับ ไม่จำกัดว่าจะเป็นห้องนอนผู้หญิงหรือผู้ชาย
ถึงตั้งแท่นแล้วก็ประกอบกิจกรรมส่วนตัวได้ตามปกติ ไม่ต้องปิดบังหรือเขินอายใดๆ
ทั้งสิ้น เทพไวกิ้งท่านไม่ถือสาในเรื่องพวกนี้
เมื่อได้สถานที่ที่เหมาะสมแล้ว
ก็ต้องจัดหาอุปกรณ์ดังต่อไปนี้ครับ
แท่นบูชา
ถ้าเป็นไปได้
ควรเป็นโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ปิดหน้าด้วยแผ่นหินอ่อน
ตัวโต๊ะจะเป็นไม้หรือเป็นโลหะก็ได้ แต่ไม่ใช่โต๊ะกลมแบบที่เรียกกันว่า “โต๊ะเช็คโก” ที่มีขายกันตามร้านเฟอร์นิเจอร์จีนทั่วไปนะครับ
ถ้าไม่สะดวกที่จะหาโต๊ะประเภทดังกล่าว
ก็ใช้ตู้ขนาดสูงไม่เกิน 120 ซ.ม.ทำด้วยไม้หรือเหล็กก็ได้
แล้วสั่งตัดหินอ่อนให้พอดีปิดด้านบนทั้งหมดแทน
หรืออย่างน้อย
ต้องมีหินอ่อนไว้สักแผ่นหนึ่งสำหรับประดิษฐานเทวรูป เอาผ้าทอสีน้ำเงินหรือสีน้ำตาลเข้มอย่างดีสักผืนมาวางคลุมบนตู้
แล้วค่อยวางแผ่นหินอ่อนลงไปในตำแหน่งที่จะประดิษฐานเทวรูป
เท่านี้ก็เสร็จไปขั้นหนึ่ง
แท่นบูชานี้จะต้องตั้งพิงผนังด้านทิศเหนือ
หันหน้าไปทางทิศใต้
นี่ละครับทำไมผมถึงว่าไม่ควรเลือกห้องที่มีหน้าต่างในแนวเหนือ-ใต้
เพราะตามหลักเทวศาสตร์อาซาทรูที่ผมศึกษามา แท่นบูชาต้องหันข้างให้หน้าต่างครับ
และที่สำคัญคือ
ถึงจะตั้งแท่นในห้องนอนก็ไม่ควรหันหน้าแท่นไปตรงกับเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง
ห้องน้ำ บันได ถังขยะ และกระจกเงา
กลางโต๊ะด้านในสุดประดิษฐานเทวรูปจอมเทพโอดิน
คู่กับเทวรูปมหาเทวีเฟรยา โดยเมื่อเราหันหน้าเข้าหาแท่นบูชา
จอมเทพโอดินอยู่ซ้ายมือของเรา มหาเทวีเฟรยาอยู่ขวามือ
เทวรูป
ภาพจาก https://www.tumblr.com |
เทวรูปของจอมเทพโอดิน
และมหาเทวีเฟรยา เดี๋ยวนี้มีมากมายหลายรูปแบบในเว็บไซต์ต่างๆ ครับ
ที่นิยมกันมากจะเป็นเนื้อเรซินผสมผงหินอ่อน ชุบสีแบบ Cold
Cast Bronze สามารถเลือกหาตามใจชอบได้สบาย
เพียงแต่ถ้าจะบูชาสององค์คู่กัน ก็หาแบบที่ตั้งด้วยกันแล้วดูเข้ากันหน่อยก็พอครับ
เทวรูปเหล่านั้น 99%
จะไม่ได้รับการเทวาภิเษก ซึ่งหมายความว่าถ้าเอามาตั้งบูชา
กี่ปีกี่ชาติก็ไม่มีพลังอำนาจใดๆ ทั้งสิ้นครับ
เพราะเขาทำไว้สำหรับเป็นของบูชาก็ได้ ของแต่งบ้านก็ได้
แต่กฎพื้นฐานทางเทววิทยาก็คือ
เทวรูปที่จะใช้ในการบูชาให้ได้ผล ต้องผ่านการเทวาภิเษก
และต้องเป็นการเทวาภิเษกที่ถูกต้องตามคติแห่งการบูชาเทพนั้นๆ ด้วยนะครับ
จะใช้ศาสตร์อื่น เช่น วิคคา (Vicca) ไม่ได้
เพราะมีผลน้อย หรือไม่ก็ไม่มีผลเลย
ซึ่งถึงแม้ว่าในหนังสือ
อติเทวปกรณ์ ผมจะเขียนวิธีการเทวาภิเษกเทวรูปอาซาทรูด้วยตัวเองไว้แล้วก็จริงครับ แต่ผมมองว่า
คนที่จะทำได้ตามนั้น ต้องมีพื้นฐานเทวศาสตร์ยุโรปสายอื่นๆ มาแล้วพอสมควรเลย
และจากประสบการณ์ส่วนตัวที่ผ่านมา
ทุกคนที่มีหนังสือเล่มนั้น ก็ไม่มีใครยอมตั้งพิธีเสกเองหรอกครับ
ล้วนแต่ยกมาให้ผมทำพิธีให้ทั้งนั้น
ดังนั้น
ชอบใจเทวรูปแบบไหนในเน็ต ก็ไปสั่งมาครับ บวกค่าส่งแล้วก็ไม่ถึงกับแพงอะไรมากมาย
แล้วยกมาให้ผมทำพิธีให้ พิธีผมก็สายเดียวกับที่เขียนไว้ในหนังสือเล่มนั้นละครับ แต่จะมีรายละเอียดที่ไม่เหมือนกัน เพราะผมเรียนมาโดยตรง
ไม่ใช่เป็นแบบที่ใช้สำหรับบุคคลทั่วไป
ค่าพิธีผมคิดองค์ละ 2,000 บาท สำหรับเทวรูปแบบ Cold Cast Bronze ที่อธิบายไปแล้ว
ซึ่งขนาดจะประมาณเทวรูปหน้าตัก 4 นิ้วของไทย ถ้าใหญ่กว่านั้นก็เพิ่มนิ้วละ 500
เล็กกว่าก็ลดลงตามส่วน แต่ถ้าเล็กกว่าเทวรูปหน้าตัก 3 นิ้วไทย
จะใช้ไม่ได้ผลในการบูชาครับ
จริงๆ
ผมเองก็มีเทวรูปของมหาเทวีเฟรยาที่ทำพิธีไว้นานแล้วเหลืออยู่สองสามองค์
ให้เช่าบูชาในราคาใกล้เคียงกับราคาที่คุณสั่งจากเน็ตบวกค่าส่งครับ ตอนนี้นำไปขึ้นหน้าวัตถุมงคลไว้เรียบร้อยแล้ว ใครที่คิดว่าจะศึกษารูนส์แบบมีเทพบรมครูที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ศึกษารูนส์ด้วยลัทธิการเดา หรือครึ่งๆ กลางๆ แบบตำราทั่วไปที่เผยแพร่กัน ก็ลองพิจารณาดู
เครื่องตกแต่งแท่นบูชาอื่นๆ
ได้แก่ กริช (Dagger) หรือ ดาบ (หรือทั้งสองอย่าง),
แตรเขาสัตว์ หรือ ระฆัง, ถ้วยมีก้าน (Chalice)
หรือ ถ้วยที่ทำจากเขาสัตว์ (Drinking Horn), เชิงกำยาน,
เชิงเทียน 1 คู่, เตาต้มน้ำมันหอมระเหย,
ภาชนะใส่ดอกไม้ สมุนไพร และอาหารที่เป็นเครื่องสังเวย
ทั้งหมดนี้ รูปแบบก็ตามใจผู้บูชา
จะเอาแบบที่เป็นไวกิ้งทั้งหมดก็มีครับ ต้องสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ต แล้วก็มีข้อแม้อยู่แค่ว่า
นอกจากแตรเขาสัตว์หรือระฆัง และ Drinking Horn แล้ว ก็ควรเป็นวัสดุอย่างเดียวกันหมด
และถ้าเป็นโลหะหรือดินเผาก็จะดีที่สุดเลยครับ
ส่วนเตาต้มน้ำมันหอมระเหยควรทำด้วยดินเผา หรือเซรามิกเท่านั้น
เทียนที่ใช้ในการบูชาเทพอาซาทรูนั้น
ถ้าดูจากขนาดของเทวรูปที่มีจำหน่ายอยู่ในอินเตอร์เน็ต
ส่วนมากเทียบได้กับพระหน้าตัก 4 นิ้วของไทยเราเท่านั้นละครับ
ดังนั้นผมว่าใช้เทียนฝรั่งทรงเตี้ยดีที่สุด
ใครจะใช้เทียนหอมที่มีกลิ่นสัมพันธ์กับองค์เทพที่บูชาอยู่ก็ได้
(ดูจากสมุนไพรว่าเป็นกลิ่นอะไรแล้วหาเทียนกลิ่นเดียวกัน) หรือหาไม่ได้ก็เทียนชา (Tealight
Candle) นั่นละครับชัวร์ที่สุด
ของพวกนี้หาได้ในเมืองไทยทั้งหมด ตามแหล่งที่ผมบอกแล้วครับ
ที่ต้องสั่งจากเมืองนอกคือ เหล้าน้ำผึ้ง แตรเขาสัตว์ Drinking
Horn และหินรูนส์
เหล้าน้ำผึ้ง
(Mead)
เป็นสิ่งที่อาซาทรูเออร์ฝรั่งนิยมกันว่า
จำเป็นต้องมีในการบูชา แต่การสั่งซื้อเหล้าน้ำผึ้งตามตำรับไวกิ้งจริงๆ
เข้ามาในไทยจะต้องเสียภาษีสรรพสามิตครับ
Drinking Horn สำหรับใส่เหล้าน้ำผึ้งเวลาเฉลิมฉลอง |
ดังนั้นจึงอนุโลมให้ใช้
ชามะนาวผสมน้ำผึ้ง แทน (ผมไม่ได้อนุโลมเอง ตำราฝรั่งเขาอนุโลมมาก่อนแล้ว)
ซึ่งผมเองก็ใช้อยู่ครับ
แถมยังมีข้อดีอีกข้อ คือทำให้ผู้บูชาไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ด้วย
พวกไวกิ้งแม้จะขี้เมา
และอาซาทรูเออร์ยุคนี้ส่วนมากก็เมาเก่งพอๆ กัน
แต่เราไม่จำเป็นต้องกินเหล้าก็บูชาจอมเทพโอดินและมหาเทวีเฟรยาได้ครับ โดยไม่มีผลเสียอะไร
ส่วน Drinking
Horn นี่สำหรับผู้ชื่นชอบไวกิ้งจริงๆ นะครับ
เพราะสนนราคาของมันค่อนข้างแพง และถ้าจะถามถึงความจำเป็น ก็ไม่ถึงขนาดนั้น
เพียงแต่มันได้ผลเรื่องหน้าตาไงครับ เวลาอวดเพื่อนว่า
ข้านี่แหละแฟนคลับไวกิ้งของแท้ ผมเองยังใช้ถ้วยแบบ chalice เลยครับ
จัดวางก็ง่าย ทำความสะอาดก็ง่ายกว่าเห็นๆ
แตรเขาสัตว์
(Signal
Horn)
นี่ก็อีกละครับ ที่มีผลต่อหน้าตามากกว่าต่อพิธีจริงๆ
เพราะมีอาซาทรูเออร์ไม่กี่คนหรอกครับที่เป่าแตรเขาสัตว์เป็น
ดังนั้นส่วนมากเขาก็เอาไว้ใช้ในพิธีใหญ่จริงๆ
หรือเอาไว้ตั้งประดับแท่นบูชาเท่านั้น
ภาพจาก http://rautaportti.fi |
ถ้าเป็นการบูชาตามบ้านก็คือใช้ระฆังครับ
ระฆังแบบฝรั่งนี่แหละ หาซื้อไม่ยาก แต่อย่าไปเอาระฆังทิเบตหรือระฆังอินเดีย
(ประมาณว่ามีลายพระพิฆเนศหรือเครื่องหมายโอม) แบบนั้นไม่ดีครับไม่เหมาะ
จะใช้แบบใดก็ได้
เพราะเป็นของที่พบเห็นได้ดาษดื่นในบ้านเรา แหล่งที่มีมากที่สุดคือตลาดนัดจตุจักร
แต่ที่ออกแบบได้สวยงามและมีรูปแบบที่เข้ากับแท่นบูชาเทพยุโรปเหนือได้ดีกว่า สามารถหาได้ที่เชียงใหม่ครับ
สมุนไพรสำหรับใช้ในพิธีบูชา
ตามคติเดิมเขาใช้ใบของต้น แอช (Ash) และดอก Morning
Glory สำหรับจอมเทพโอดิน, ต้น เอลเดอร์ (Elder)
หรือ เบิร์ช (Birch) และดอกลิลลี่ หรือดอก Moon
Flower สำหรับมหาเทวีเฟรยา
ภาพจาก http://www.mkprojects.com |
สมุนไพรที่ว่ามานี้ควรเป็นของสด
แต่ถ้าเป็นของแห้งก็ไม่ถือว่าผิดอะไรหรอกครับ
และที่จริงในบ้านเราก็หาของแห้งได้ง่ายกว่าของสด
เพราะสามารถหาได้ตามแผนกเครื่องเทศของซูเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ
ที่มีลูกค้าเป็นชาวต่างชาติ
ถ้าหามาได้ไม่ครบไม่เป็นไร
หาไม่ได้เลยก็ไม่เป็นไร แต่ถ้ามีโอกาสที่จะหามาได้ก็ควรกระทำครับ
อย่างน้อยใช้ในการบูชาประจำปี คือปีละครั้งก็ยังดี
น้ำมันหอมระเหย
อันนี้จำเป็นครับ
ขาดไม่ได้ แล้วก็ต้องเป็นน้ำมันหอมระเหยแท้ (Essential Oils) ด้วยนะครับ ไม่ใช่น้ำมันหอมสังเคราะห์ราคาถูก ที่มีขายกันดาษดื่นทั่วไป
ภาพจาก http://www.ebay.com |
น้ำมันหอมระเหยแท้ส่วนใหญ่จะมีราคาแพง
และหาได้ตามร้านค้าที่ขายผลิตภัณฑ์อโรมาเธอราพี (Aromatherapy) ซึ่งในไทยเราก็มีอยู่ตามห้างใหญ่ๆ โดยถ้ายึดตามตำราดั้งเดิมนะครับ
น้ำมันหอมระเหยที่ใช้สำหรับจอมเทพโอดิน ซึ่งพอหาได้ในเมืองไทยคือ ซีดาร์วู้ด (Cedarwood),
ไพน์ (Pine) และ ไม้จันทน์ (Sandalwood)
ส่วนของมหาเทวีเฟรยา คือ กุหลาบ ไม้จันทน์ และ มินท์ (Mint)
ผมเองก็ไม่ได้ใช้น้ำมันหอมเหล่านี้หรอกครับ
เพราะ อ.อรชร เอกภาพสากล นักสุคนธศาสตร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทยปัจจุบัน
ผู้เขียนหนังสือ มหัศจรรย์น้ำมันหอมระเหย
ได้คิดค้นสูตรเบลนด์สำหรับการบูชาคุรุเทพทั้งสององค์นี้รวมกันไว้นานแล้ว
ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่า เป็นสูตรเบลนด์สูตรแรกในโลกเลยทีเดียว
สำหรับวงการอาซาทรูเออร์
เพราะเท่าที่ผมทราบ
ตอนนี้ฝรั่งยังไม่มีใครคิดค้นสูตรนี้นะครับ
ที่ผมใช้สูตรนี้สูตรเดียว
ก็เพราะเมื่อนำบูชาแล้ว ปรากฏว่าได้ผลดีกว่าน้ำมันหอมเดี่ยวๆ
ตามที่ผมยกตัวอย่างมาเสียอีก
เพราะบรรดาน้ำมันหอมเดี่ยวๆ
เหล่านั้น คนที่ธาตุเจ้าเรือนไม่ถูกกันอาจแพ้ หรือเสียสุขภาพเอาง่ายๆ
ส่วนสูตรเบลนด์นี้คือใช้ได้กับคนทุกธาตุเจ้าเรือน ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใดครับ
ผมถึงว่า อะไรที่หาได้ในเมืองไทย
เราก็จัดไปตามนั้นเถอะครับ ไม่จำเป็นต้องไปแสวงหา หรือรอซื้อของฝรั่ง
ใครสนใจอยากได้ก็ติดต่อที่บล็อกของ อ.อรชร โดยตรงนะครับ คือ http://mysticaaroma.blogspot.com
น้ำมันหอมระเหยใช้กับเตาหรือ
Burner
ซึ่งจะมีเบ้าให้ใส่น้ำไว้ด้านบน และมีช่องสำหรับจุดเทียนชาไว้ข้างใต้
จุดเทียนอุ่นน้ำมันให้ร้อนแล้วค่อยหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปครับ
เตาต้มน้ำมันนี้ ผมไม่แนะนำให้ใช้แบบที่เป็นโลหะ
เพราะมันจะทำปฏิกิริยากับน้ำมันหอมระเหยแล้วก็อาจจะได้มะเร็งเป็นของแถม
เอาเป็นว่าเตาดินเผาดีที่สุดครับ หาง่ายหาได้ทั่วไป
หินรูนส์
(Runestone)
หินรูนส์โดยปกติเป็นของค่อนข้างหายากในบ้านเรา
ร้านหนังสือใหญ่ๆ เช่น Asia Books และ Kinokuniya
มักนำเข้ามาจำหน่ายบ้างเป็นครั้งคราว
ภาพจาก https://www.pinterest.com |
ถ้าหาจากอินเตอร์เน็ตก็ไม่ยากหรอกครับ
เพียงแต่อย่าไปเอาแบบที่เป็นแก้วใส หรือหินสีที่แต่ละก้อนสีไม่ซ้ำกัน แบบนั้นยากต่อการทำนายสำหรับมือใหม่ครับ
ตามปกติ
หินรูนส์จะมีถุงหรือกล่องสำหรับบรรจุโดยเฉพาะ
และที่วางที่เหมาะสมหลังจากการใช้งานก็คือบนแท่นบูชานั่นเองครับ
การเลือกเทวรูป
และเครื่องบูชาทุกชนิด ผมขอย้ำว่าแม้จะมีทางเลือกที่จำกัด แต่ไม่ควรรีบร้อนครับ ต้องเชื่อสัญชาติญาณของเราเป็นหลัก
สิ่งใดที่เรารู้สึกว่ายังไม่ใช่
นั่นก็ไม่เหมาะกับเรา
เพราะเทวรูปและอุปกรณ์ที่เรารู้สึกว่าเหมาะสมเท่านั้น ที่จะเชื่อมโยงกับเราได้
จงอย่าลืมว่า
อานุภาพแห่งพิธีกรรมของเรา มีเหตุปัจจัยหลักอยู่ที่พลังจิตของเรา
มิใช่วัตถุที่เกี่ยวข้องครับ
โดยปกติ
การตั้งแท่นบูชาในคติของชาวนอร์สนั้นนิยมตั้งกันในเทศกาล ดีสซาบล็อท (Disablot)
ตรงกับวันที่ 31 มกราคมและ โอสทารา (Ostara) หรือ วสันต์วิษุวัต
(Vernal Equinox) ตรงกับวันที่ 21 มีนาคม
ถือว่าเป็นฤกษ์ดีของเขา
ภาพจาก http://www.ravenkindred.com |
รูปแบบการจัดวางสิ่งของต่างๆ
บนแท่นบูชา ไม่มีกฎเกณฑ์กำหนดไว้แน่นอน ส่วนใหญ่ก็ free style ตามภาพข้างบนนั่นละครับ
ถ้าแบบที่นิยมกันว่ามาตรฐาน
คือตั้งเทวรูปไว้ด้านในสุดดังกล่าวแล้ว ถัดมาด้านหน้าเทวรูป วางถ้วยน้ำหรือ Drinking
Horn ใส่เหล้าน้ำผึ้ง ถัดมาด้านหน้า วางเชิงกำยานไว้ตรงกลาง
ขนาบด้วยภาชนะใส่ดอกไม้และสมุนไพร และ ขนาบอีกชั้นด้วยเชิงเทียน วางเรียงกันไปตามด้านยาวของหน้าแท่นบูชา
ถัดมาซึ่งใกล้กับขอบโต๊ะด้านหน้า ก็วางกริชหรือดาบตามยาวหันปลายไปทางทิศตะวันตก
บนแท่นบูชา ไม่จำเป็นจะต้องมีถ้วยน้ำสำหรับพระเทวรูปจัดถวายไว้เป็นประจำ
ถ้าใครจะจัดถวายก็ไม่ผิด แต่ไม่ใช่ประเพณีนิยมครับ
มีเทวรูปแล้ว
มีเครื่องบูชาแล้ว จัดแท่นเสร็จก็เตรียมประกอบพิธีกันครับ
อ่านต่อที่ การบูชาจอมเทพโอดินและมหาเทวีเฟรยา (2)
อ่านต่อที่ การบูชาจอมเทพโอดินและมหาเทวีเฟรยา (2)
……………………………
หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด
ตรงไปตรงมามากค่ะ อันไหนมีไว้แค่เท่ก็บอกกันตรงๆ ^ ^
ReplyDeleteบอกตรงๆ ได้อีกว่า เท่กว่านี้ยังมีครับ แต่ต้องกระซิบกันเป็นรายบุคคล 55555
Deleteละเอียดมากมายคะ
ReplyDeleteขอบคุณครับน้องเปีย
Deleteติดตามและชื่นชมครับ ข้อมูลในประเทศไทยน้องจริงๆ ส่วนใหญ่ต้องศึกษาจากต่างประเทศอย่างเดี่ยว จะคอยติดตามนะครับ
ReplyDeleteขอบคุณครับ ข้อมูลที่นำมาเผยแพร่นี้ก็คงต้องบอกว่ามีทั้งแบบที่ใช้ได้ทั่วๆ ไป และใช้เฉพาะในสายที่ผมศึกษามา มันก็เลยมีทั้งเหมือนและแตกต่างกับหลายๆ สำนักที่เขาเผยแพร่กันอยู่ทั้งในหนังสือและอินเตอร์เน็ตครับ
Deleteอยากสอบถามค่าบริการสำหรับพิธีเทวาภิเษกของพระเทวีไอซีสครับ หลังไมค์ก็ได้ครับ nortty@gmail.com ขอบคุณครับ
Deleteค่าพิธีเท่ากับเทพอาซาทรู ตามที่ระบุไว้ข้างบนแล้วนะครับ คือองค์ละ 2,000 ถ้าเทียบกับเทวรูปหน้าตัก 4 นิ้วไทย ส่วนเทวรูปของไอซิสที่เทวาภิเษกแล้วก็มีอยู่เช่นกัน ถ้าสนใจจะส่งตัวอย่างให้ครับ
Deleteจะหาของบูชาได้ยังไงคับ
ReplyDeleteถ้านอกจากที่บอกไปแล้ว ก็ต้องสั่งซื้อทางอินเตอร์เน็ตครับ
Deleteถ้าหาเทวรูปไม่ได้ผมสามารถบูชาท่านเป็นรูปภาพแทนได้ไหมครับ
ReplyDeleteการบูชารูปภาพ ต่อให้เป็นภาพที่ผ่านพิธี ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากครับ มีพลังไม่มากไปกว่าผ้ายันต์ ที่เอาไว้แขวนผนังบ้าน หรือตั้งโต๊ะเท่านั้น ไม่สามารถตอบรับการบูชาใดๆ
Deleteเทวรูป สมัยนี้หาไม่ยากแล้วนะครับ สั่งทางเน็ตก็มีหลายเว็บที่ส่งถึงเมืองไทย
ถ้าจะเอามหาเทวีเฟรยาที่เสกแล้ว ก็ยังมีอยู่ใน blog นี้
http://runesdivinator.blogspot.com/2017/10/blog-post.html