Tuesday, December 8, 2015

นอร์ส และ ไวกิ้ง

ผมได้กล่าวถึงพวกนอร์ส และพวกไวกิ้งมาหลายครั้ง อาจจะมีบางท่านงงๆ นะครับว่า ตกลงจะให้เรียกยังไงกันแน่ เอาเป็นว่าบทความนี้ผมขอพูดถึงที่มาที่ไปของชนชาตินี้ซักทีก็แล้วกัน

คือภูมิภาคยุโรปเหนือ หรือ สแกนดิเนเวีย (Scandinavia) นี่นะครับ ในสมัยโบราณเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของชนพื้นเมืองที่ชาวโรมันเรียกว่าอนารยชน (Barbarian) หลายพวก

ชนพื้นเมืองเหล่านี้ มีศัพท์ทางชาติพันธุ์วิทยาเรียกรวมๆ ว่า เยอรมันนิค (Germanic) หรือ ติวตัน (Teuton) พบหลักฐานว่าได้ปรากฏในบริเวณซึ่งปัจจุบันเป็นพื้นที่ตอนใต้ของกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวียมาแล้วตั้งแต่ราวๆ 1,000 ปีก่อนคริสตกาล

ที่เรียกคนเหล่านี้ว่าเยอรมันนิค เพราะพวกเขาพูดภาษาสกุลเยอรมันนิค ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภาษาตระกูลใหญ่ที่เรียกว่าอินโด-ยูโรเปียนไงครับ สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ

1) พวกเยอรมันนิคเหนือ (Northern Germanic) ตั้งหลักแหล่งอยู่ทางสแกนดิเนเวีย ถูกเรียกรวมๆ ว่าพวกคนเหนือ หรือ นอร์ส (Norse) และเป็นพวกเดียวกับ ไวกิ้ง (Viking) เป็นต้นตระกูลของชาวดัชท์ เดนส์ สวีดิช นอร์วีเจียน และไอซ์แลนด์ในปัจจุบัน

2) พวกเยอรมันนิคตะวันออก (Eastern Germanic) ขยายไปตั้งหลักแหล่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำวิสตูลา ได้แก่พวก กอธ (Goth)และพวก แวนดัล (Vandal) ในราวๆ คริสตศตวรรษที่ 4 ได้ไปเป็นทหารรับจ้างให้โรม ต่อมาก็กลายเป็นพวกที่ล้มล้างอาณาจักรโรมันได้ละครับ แต่ในที่สุดก็หายไปจากประวัติศาสตร์

3) พวกเยอรมันนิคตะวันตก (Western Germanic) ส่วนหนึ่งขยายไปตั้งหลักแหล่งทางลุ่มแม่น้ำไรน์และดานูบ เป็นบรรพบุรุษของชาวเยอรมันในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งไปตั้งหลักแหล่งทางลุ่มแม่น้ำแซน เรียกว่า แฟรงค์ (Frank) เป็นต้นตระกูลของชาวฝรั่งเศสในปัจจุบัน

และอีกส่วนหนึ่งคือพวก แองเกิล (Angle) และพวก แซกซัน (Saxon) ข้ามไปยังเกาะอังกฤษ เข้าไปยึดครองดินแดนของพวก เคลต์ (Celt) พื้นเมืองดั้งเดิม เป็นต้นตระกูลของชาวอังกฤษปัจจุบัน ดังมีศัพท์เรียกกันว่า แองโกล-แซกซัน (Anglo-Saxon)

ในบรรดาชนเผ่าเยอรมันนิคทั้งปวง ดูเหมือนจะมีพวกนอร์สเพียงพวกเดียวนี่ละครับที่เดินทางเผยแผ่วัฒนธรรมและชื่อเสียงไกลออกไปนอกทวีปยุโรปอย่างแท้จริง เพราะเป็นชาวยุโรปพวกแรกที่กล้าเดินเรือออกไปนอกทะเลลึก

ที่เป็นเช่นนี้ ก็เนื่องจากพวกเขาสามารถสร้างเรือที่มีกระดูกงู อันเป็นเทคโนโลยีที่ก้าวหน้ากว่าชาวยุโรปพวกอื่นๆ ในแถบเมดิเตอเรเนียน ซึ่งยังคงใช้เรือท้องแบนที่ไม่เหมาะกับทะเลเปิดครับ




นอกจากมีเรือที่ดีกว่าพวกยุโรปด้วยกันแล้ว พวกนอร์สยังมีความชำนาญในการเดินเรือมาก พวกเขารู้จักอ่านทิศทางลม ดูความสูงของดวงอาทิตย์ และตำแหน่งของดาวบนฟ้า และยังศึกษาพฤติกรรมของปลาวาฬ นกพัฟฟิน (Puffin) และนกทะเลอื่นๆ ตลอดการเดินทาง ทำให้สามารถแล่นเรือข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องใช้เข็มทิศ  

อีกทั้งในการค้นหาแผ่นดินใหม่ พวกเขาจะใช้วิธีปล่อยนกกาเหว่าให้บินจากเรือไปทุกๆ 2-3 วัน ซึ่งถ้าไม่มีแผ่นดินใหม่อยู่ใกล้เคียง นกก็จะบินไปย้อนทิศที่เรือเดินทางเพื่อกลับไปสู่แผ่นดินเดิม แต่เมื่อเห็นนกกาเหว่าบินไปทางทิศอื่น พวกนอร์สก็รู้ทันทีว่านกได้เห็นแผ่นดินใหม่แล้ว ก็จะนำเรือไปตามทิศทางนั้นจนค้นพบแผ่นดินใหม่ได้ในที่สุด เยี่ยมมากใช่มั้ยครับ

ดังนั้น แม้ว่าในเบื้องแรกจะอยู่กันเฉพาะในสแกนดิเนเวีย แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็ได้ค้นพบและยึดครองไอซ์แลนด์และกรีนแลนด์ และต่อมาก็สามารถตั้งอาณานิคมในส่วนใหญ่ของอังกฤษ และนอร์มังดี นอกจากนี้ยังบุกจู่โจมสเปน โมร็อกโก และอิตาลี และข้ามทวีปไปไกลถึงรัสเซียในราวๆ คริสตศักราช 8001050 ซึ่งช่วงเวลานี้ละครับ ที่นักประวัติศาสตร์เรียกว่าเป็นยุคไวกิ้ง

พวกที่ไปถึงรัสเซียนั้น ในที่สุดก็ตั้งหลักแหล่งและผสมปนเปกับคนพื้นเมืองกลายเป็นพวก สลาฟ (Slavic) เป็นต้นตระกูลของชาวรัสเซีย เซิร์บ โครแอท บัลแกเรียน โรมาเนียน สโลวัคและโปแลนด์ พูดง่ายๆ ก็เทือกเถาเหล่ากอเดียวกันละครับ คนยุโรปเหนือกับคนรัสเซีย

ยิ่งไปกว่านั้นครับ พวกนอร์สยังสามารถเดินเรือไปไกลถึงชายทวีปอเมริกาเหนือ ที่นักประวัติศาสตร์ทุกวันนี้เชื่อว่าเป็นลาบราดอร์, นิวฟันด์แลนด์ และนิวอิงแลนด์อีกด้วย แต่พวกเขาตั้งถิ่นฐานอยู่ในดินแดนใหม่นี้ได้ไม่นานก็ถูกชนเผ่าอินเดียนแดงพื้นเมืองรุกราน จนต้องอพยพกลับกรีนแลนด์




ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ เกิดก่อนที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส จะพบอเมริกาประมาณ 500 ปี นับว่าพวกนอร์สเป็นหนึ่งในหลายๆ ชนชาติที่ค้นพบทวีปอเมริกาก่อนโคลัมบัส แต่ไม่ได้รับเครดิตในเรื่องนี้อย่างโคลัมบัส

การเข้าไปตั้งหลักแหล่งในภูมิภาคต่างๆ ของพวกนอร์ส กระทำทั้งโดยสันติและการรบ บางทีการตั้งหลักแหล่งนั้นก็ต้องการเพียงหาที่พำนักชั่วคราว สำหรับใช้เป็นฐานในการส่งกองกำลังไปปล้นสะดมภ์บ้านเมืองใกล้เคียงเท่านั้นละครับ เมื่อได้ทรัพย์สมบัติเป็นที่พอใจแล้วก็ย้ายไปพื้นที่อื่นต่อไป หรือบางพวกก็กลับบ้านที่สแกนดิเนเวีย แต่มักจะอยู่บ้านได้ไม่นานก็ต้องออกผจญภัยอีก เพราะนิสัยรักการต่อสู้และการท่องเที่ยวไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่

ซึ่งพวกนี้ละครับที่เรียกกันว่า พวกไวกิ้ง

นักรบไวกิ้งจากยุโรปเหนือนั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือในประวัติศาสตร์โลก ทั้งในเรื่องของความโหดร้าย ความเป็นคนป่าเถื่อนนอกรีต (เมื่อมองจากสายตาของชาวคริสต์) และการเข่นฆ่าล้างผลาญ เพราะตอนเริ่มต้นบุกขึ้นชายฝั่งนอร์ธัมเบรีย ตอนเหนือของประเทศอังกฤษเมื่อค.ศ.793 ก็ทำในสิ่งที่ไม่มีใครกล้าทำในสมัยนั้น คือเผาทำลายโบสถ์แห่งลินดิสฟาร์น (Lindisfarne) และฆ่าบาทหลวงทุกคนที่นั่น




เมื่อพูดถึงพวกนอร์ส คนทั่วไปจึงมักเหมารวมว่าเป็นไวกิ้งไปหมด จนไวกิ้งกลายเป็นสัญลักษณ์เดียวของเผ่าพันธุ์นอร์สที่คนทั่วโลกรู้จักก็ว่าได้

แต่พวกนอร์สก็มิได้เป็นไวกิ้งไปซะทุกคนหรอกครับ

เพราะถ้าจะว่าตามความเป็นจริง ไวกิ้งส่วนใหญ่คือพวกนอร์สที่ไม่มีที่ทำกิน ต้องออกเดินทางแสวงโชคด้วยการปล้นสดมภ์ไปตามดินแดนต่างๆ นำของมีค่าที่ปล้นได้กลับบ้านไปเลี้ยงครอบครัว หรือค้าขายต่อไป ซึ่งในด้านการค้าแล้ว ไวกิ้งก็เป็นพ่อค้าที่เก่งนะครับ พวกเขามีเครือข่ายทางธุรกิจที่ไกลออกไปถึงจักรวรรดิไบแซนไทน์ เปอร์เซีย และอินเดีย

ส่วนพวกนอร์สที่มีที่ดินทำกิน ก็เป็นชาวไร่ชาวนา เลี้ยงสัตว์ และรวมตัวกันเป็นบ้านเป็นเมืองอยู่ในภูมิภาคสแกนดิเนเวีย มีกษัตริย์ปกครองเหมือนชาวยุโรปในที่อื่นๆ ทุกประการ

ที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าจะเป็นนอร์สทั่วไปหรือนอร์สที่เป็นไวกิ้ง ต่างก็นับถือศาสนาเดียวกัน คือ ลัทธิศาสนาอาซาทรู ซึ่งเป็นมากกว่าเครื่องหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ กล่าวคือเป็นทั้งแรงบันดาลใจและวิถีชีวิตของชาวไวกิ้งทั้งหมด ที่ทำให้พวกเขาแผ่อิทธิพลครอบงำยุโรปให้ตกอยู่ในความอกสั่นขวัญแขวนได้ถึง 300 ปีอีกด้วย



……………………………


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

6 comments:

  1. ไม่น่าเชื่อนะคะ ว่าโหด+ดุ อย่างไวกิ้ง ยังแพ้อินเดียนแดง

    ReplyDelete
    Replies
    1. ถ้าไม่ใช่เพราะจำนวนคนน้อยกว่า ก็อาจจะสูสีกันครับ เพราะไวกิ้งเป็นพวกที่ปรับตัวได้เร็ว แต่จำนวนคนที่ตั้งหลักแหล่งในอเมริกามีน้อยเกินไป และอเมริกาก็ไกลเกินไปด้วย พวกไวกิ้งส่วนใหญ่จึงไม่สนใจที่จะไปลงหลักปักฐานที่นั่น

      Delete
  2. แสดงว่าพวกนอร์สที่ไม่ได้เป็นไวกิ้งก็ไม่ใช่พวกดุร้ายอะไรซิคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ครับ แถมยังเป็นพวกที่ค่อนข้างใจดี เป็นมิตร และเป็นกันเองกับคนแปลกหน้าได้ง่ายๆ มากเลย

      Delete
  3. เป็นทั้งนักรบและนักเดินทางเลยนะคะ ไม่รู้ว่าเคยเดินทางมาถึงทางบ้านเราบ้างหรือเปล่า เห็นว่า ปราสาทไวกิ้งนี้เหมือนกับสถาปัตยกรรมแบบไทยใหญ่เลยทีเดียว

    ReplyDelete
    Replies
    1. นั่นน่ะสิครับ เพราะอย่างน้อยก็มาถึงรัสเซีย แต่ว่าการจะออกจากรัสเซียล่องใต้ลงมาถึงพม่าและไทยก็ยากอยู่ เพราะมีปราการธรรมชาติเยอะครับ แต่เรื่องปราสาทไวกิ้งกับไทยใหญ่นี่เป็นอะไรที่เหมือนกันเกินกว่าจะเป็นความบังเอิญจริงๆ

      Delete

Note: Only a member of this blog may post a comment.