ชาวนอร์ส
มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับสัตว์ มากกว่าที่พวกเราคิดกันครับ
ตั้งแต่สัตว์วิเศษ
ไปจนกระทั่งถึงสัตว์เล็กสัตว์น้อยต่างๆ ล้วนแต่มีบทบาทอยู่ในเทพนิยายของพวกเขา
แม้แต่ในเหตุการณ์วันสิ้นโลก หรือ รักนาร็อค (Ragnarök)
สัตว์เหล่านี้
บางส่วนมีการนำมาทำเป็นเครื่องราง และวัตถุมงคลด้วยนะครับ
ดังที่ผมเขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้
ในบทความนี้
ผมจะประมวลรายชื่อสรรพสัตว์ ที่ผู้ศึกษาเทพนิยายไวกิ้งจะได้พบเห็นบ่อยๆ
เรียงตามพยัญชนะแรกของชื่อในภาษาอังกฤษ และภาษานอร์สนะครับ
Audhumla : โอดูมลา แม่วัวแห่งปฐมกาล
ที่เกดขึ้นด้วยประกายไฟจาก มูสเพลไฮม์ (Muspelheim) ตกลงใน
นีฟเฟลไฮม์ (Nifelheim)
แม่วัวนี้เลียกินก้อนน้ำแข็ง
จนกลายเป็น พญายักษ์อีเมียร์ (Ymir) ซึ่งเป็นบรรพชนของเหล่ายักษ์
(Rime) และเหล่าเทพ (Asa)
Bygul &
Trjegul : เบกูล และ เทรียกูล
แมวตัวผู้ขนาดยักษ์ที่มีขนสีฟ้าหรือเทา มีหน้าที่ลากราชรถของ มหาเทวีเฟรยา
เป็นของขวัญที่พระนางทรงได้รับจาก
มหาเทพธอร์
Eikþyrnir : เอ็คเธียร์เนียร์ กวางแห่ง วัลฮัลลา (Valhalla)
เขาทั้งสองของมันมีพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์
และเป็นต้นธารของน้ำพุ แวร์เกลเมียร์ (Hvergelmir) ตรงรากของพฤกษาโลก
อี๊กก์ดราซีล (Yggdrasil) ซึ่งทำให้เกิดน้ำพุทั้งปวงใน มิดการ์ด (Midgard)
Fafnir : ฟาฟเนียร์ มังกรเฝ้าขุมทรัพย์ซึ่งถูก ซิกฟรีด
(Siegfried บางตำราเรียก Sigurd) วีรบุรุษในตำนานแหวนอาถรรพณ์
นีเบลลุง (Nibellung) สังหาร
เขาอาบเลือดของมันเพื่อให้คงกระพัน
แต่เผอิญมีใบไม้ร่วงไปปิดด้านหลัง
ทำให้เป็นส่วนของร่างกายที่ไม่ได้รับการชโลมเลือดมังกร
และกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เขาถูกฆ่าตายในท้ายที่สุด
Fenir : เฟนเรียร์ พญาสุนัขป่า บุตรของ โลคี
กับ ยักษิณีอังเกอร์โบดา (Angrboda)
ในระยะแรก
จอมเทพโอดิน ทรงเลี้ยงไว้เพราะชอบสุนัขป่า
แต่ภายหลังมันก็เติบโตขึ้นเป็นสุนัขป่ายักษ์ มีความดุร้ายและกำลังอันมหาศาล
จนไม่มีสิ่งใดควบคุมมันได้
เหล่าเทพต้องให้คนแคระทำโซ่วิเศษขึ้นมา
จับมันไปพันธนาการไว้ในที่ห่างไกลจากโลกทั้งหมด
โดย มหาเทพเทียร์
ต้องทรงสละพระหัตถ์ข้างหนึ่งของพระองค์ให้มันกัดจนขาด
เพื่อเบนความสนใจของมันจากเหล่าเทพซึ่งช่วยกันล่ามโซ่มัน
ในมหาสงครามรักนาร็อค
เฟนเรียร์สะบัดหลุดจาโซ่ที่ล่ามมัน และเข้าสู่สมรภูมิที่ทุ่งวีกริดด้วยการฆ่า
และกินทุกชีวิตที่พบเจอระหว่างทาง
มันต่อสู้กับจอมเทพโอดิน
และสังหารพระองค์ ก่อนที่ตัวมันเองจะถูกสังหารโดย เทพวีดาร์ (Vidar)
โอรสองค์หนึ่งของจอมเทพโอดิน
Freki
& Reki : เฟรกี และ เรกี
สุนัขป่าสองตัวที่นอนหมอบอยู่ข้างบัลลังก์ของจอมเทพโอดินในหอวัลฮัลลา
เพื่อคอยกินเศษอาหาร
บทบาทเดิมชองสุนัขป่าคู่นี้
มีแค่นี้ครับ
แต่ในภาพเขียนยุคหลังๆ
มักจะเห็นมันติดตามจอมเทพโอดินออกล่าวิญญาณ
และแม้กระทั่งเมื่อพระองค์จำแลงกายเป็นจอมเวทย์ ท่องเที่ยวไปในมิดการ์ด
ทั้งนี้เกิดจากลัทธิคลั่งสุนัขป่า
ในสังคมเพแกน (Pagan) ของโลกตะวันตก
ที่มีความพยายามจะยัดเยียดเข้าไปทั้งในแวดวงของไวกิ้งยุคใหม่ วิคคา และ
อินเดียนแดง
Garm : การ์ม สุนัขแห่งนรก บริวารของ เฮล (Hel)
นางพญานรก
ในมหาสงครามรักนาร็อค
มันติดตามองค์นางพญาผุดขึ้นจากรอยแยกบนแผ่นดิน พร้อมด้วยดวงวิญญาณชั่วร้ายทุกดวง จากนีฟเฟลไฮม์
เพื่อเข้าร่วมกับกองทัพยักษ์ ทำสงครามครั้งสุดท้ายกับเหล่าเทพ
และกองกำลังแห่งวัลฮัลลา
Gullinbursti : กูลลินเบอร์สตี หมูป่าแห่งความอุดมสมบูรณ์
ที่มีแผงคอเรืองแสงในที่มืด เป็นพาหนะของ มหาเทพเฟรย์
เมื่อเหล่าคนแคระผู้เป็นบุตรแห่ง
อีวัลดี (Ivaldi) สร้างพระเกษาใหม่สำหรับ
เทวีซีฟ (Sif) แทนพระเกษาเดิมที่ถูกโลคีกร้อนไป
รวมทั้งของวิเศษอื่นๆ ถวายจอมเทพโอดิน และมหาเทพเฟรย์
โลคีเดิมพันหัวของตัวเองกับคนแคระสองพี่น้อง
โบรกก์ (Brokk) ว่า ซินดรี (Sindri)
พี่ชายของเขา จะไม่สามารถสร้างของวิเศษถวายคณะเทพได้ในระดับเดียวกันนั้น
ทั้งสองพี่น้องจึงสร้างกูลลินเบอร์สตี
ขึ้นมาจากหนังหมูที่โยนเข้าเตาไฟ เพื่อถวายแด่มหาเทพเฟรย์
ให้มันช่วยแผ่ขยายพลังแห่งความอุดมสมบูรณ์ของพระองค์
Gullinkambi : กูลลินคัมบี ไก่ที่เกาะอยู่เหนือหอวัลฮัลลา
ส่งเสียงร้องดังไปทั่วแดนสวรรค์ เตือนเหล่าเทพในการมาถึงของวันสิ้นโลก
เป็นหนึ่งในไก่ 3 ตัว ที่ขันส่งสัญญาณมหาสงครามรักนาร็อค
อีกสองตัวคือ ฟีอัลลาร์
(Fjalar)
ที่เกาะอยู่บน ต้นกัลวีเธอร์ (Gálgviðr) และ ไก่สีแดงแห่งนรก ของนางพญาเฮล
Hilðisvini : ฮิลดีสวีนี เป็นร่างแปลงของ โอททาร์ (Ottar)
นักรบหนุ่มชาวมิดการ์ด ซึ่งมีความสัมพันธ์กับมหาเทวีเฟรยา
เป็นพญาหมูป่าแห่งการศึก
Huginn & Muninn : ฮูกินน์ และ มูนินน์ อีกาสีดำสนิท 2 ตัว
เป็นบริวารของจอมเทพโอดิน ซึ่งโบยบินไปทั่วโลก นำข่าวสารต่างๆ
กลับมาถวายรายงานแด่พระองค์
ทั้งสองชื่อนี้แปลว่า
ความรู้ และ ความจำ
Jormungand : โยร์มุนกันด์ บุตรของโลคี
กับยักษิณีอังเกอร์โบดา
มีสมญาว่า Serpent
of Midgard เล่ากันว่าการบิดตัวของมันแต่ละครั้ง
ทำให้เกิดแผ่นดินไหวและท้องทะเลปั้นป่วนขึ้นในโลก
ในมหาสงครามรักนาร็อค
โยร์มุนกันด์บิดตัวอย่างแรงจนเกิดมหาอุทกภัยถล่มชายฝั่งทะเลและเกาะทุกแห่งในโลก
และไปสู่ทุ่งวีกริดโดยพ่นพิษทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้า
มันต่อสู้กับมหาเทพธอร์
และถูกพระองค์สังหารด้วยฆ้อนเมียลเนียร์ แต่ด้วยพิษของมันที่พ่นออกมา
ราวกับห่าฝนอยู่ตลอดเวลา องค์มหาเทพทรงพระดำเนินต่อไปได้อีกเพียง 9 ก้าวก็ล้มลงสิ้นพระชนม์
Nydhogg : นี๊ดฮูกก์ พญามังกรซึ่งอาศัยอยู่ปลายสุดของรากพฤกษาโลก
คอยกินศพมนุษย์ที่ตาย และบางครั้งก็กัดแทะรากของพฤกษาโลก
ในมหาสงครามรักนาร็อค
พญามังกรนี๊ดฮูกก์ กัดรากแก้วของพฤกษาโลก จนสั่นสะเทือนถึงยอด
ก่อนจะโผบินสู่โลกเบื้องบน โดยยังมีเศษรากแก้วของพฤกษาโลกคาปาก
ซากศพมนุษย์ที่มันเก็บไว้ใต้ปีกสำหรับเคี้ยวเล่น
ร่วงหล่นเป็นสายๆ ลงสู่พื้นโลก อย่างน่าสะอิดสะเอียนยิ่งนัก
Ratatosk : ราทาโทสค์ กระรอกแดงที่วิ่งขึ้นลงระหว่างยอดของพฤกษาโลก
ที่นกอินทรีเกาะยู่ กับที่พำนักของ พญามังกรนี๊ดฮูกก์
เพื่อคอยรายงานให้นกอินทรีรู้ถึงความเคลื่อนไหวของพญามังกร
และขัดขวางมิให้พญามังกรกัดแทะรากของพฤกษาโลก
Skall
& Hati : สกอลล์ และ ฮาตี
สุนัขป่าซึ่ง ยักษิณีอังเกอร์โบดา เลี้ยงไว้
และดำรงชีวิตจากการกินซากศพมนุษย์ที่ล้มตายลงทุกวัน
อีกทั้งกลืนกินราชรถสุริยันและราชรถจันทรา ทำให้เกิดสุริยคราส จันทรคราส
มันทั้งสองเติบใหญ่ขึ้นในวันแห่งมหาสงครามรักนาร็อค
และอ้าปากมโหฬารกลืนกินราชรถสุริยันและราชรถจันทรา
เป็นผลให้ทั้งโลกตกอยู่ในความมืดมิดอย่างแท้จริง ไม่มีแม้แต่แสงดาวอีกต่อไป
Sleipnir : สไลพ์เนียร์ เทพอาชา 8 ขา
พาหนะของจอมเทพโอดิน สำหรับควบไปเหนือสมรภูมิในมิดการ์ด เพื่อทรงเลือกวีรบุรุษที่จะนำไปจัดตั้งเป็นกองทัพสู้กับเหล่ายักษ์ในวันสิ้นโลก
การที่สไลพ์เนียร์มี 8 ขา สันนิษฐานกันไว้สองอย่างครับ
อย่างแรกคือเกิดจากเวลาเรามองม้าที่กำลังควบเร็วๆ เราจะเห็นว่ามันมีหลายขา
อีกอย่างหนึ่ง
อาจจะเกิดจากแนวความคิดที่ว่า ถ้าเพิ่มขาเข้าไปอีกชุดหนึ่ง
ก็จะทำให้เป็นม้าวิเศษที่วิ่งได้เร็วขึ้น
Svadilfari : สวาดิลฟารี ม้าที่มีพลังพิเศษ
ซึ่งยักษ์ตนหนึ่งนำมาอาสาช่วยซ่อมกำแพงอัสการ์ดให้เสร็จใน 3
ปี โดยขอพระอาทิตย์ พระจันทณ และ มหาเทวีเฟรยา เป็นสิ่งตอบแทน
โลคียุให้จอมเทพโอดิน
และคณะเทพยอมรับเงื่อนไขนี้ เพราะไม่คิดว่ายักษ์ดังกล่าวจะทำได้
เมื่อปรากฏว่า
ม้าสวาดิลฟารีช่วยลากหินจากเทือกเขาแห่งมิดการ์ด
ได้อย่างรวดเร็วและมากมายเหลือคณานับ ภายในเวลาสั้นๆ
และเจ้าของของมัน
ก็ทำแค่สกัดหินเหล่านั้นให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม
ให้มันลากขึ้นไปก่อกำแพงด้วยความสม่ำเสมอ ทุกชั่วโมงและทุกวันโดยปราศจากความเหน็ดเหนื่อย
หรือการหยุดพัก
จนการบูรณะกำแพงแห่งอัสการ์ด
ทำท่าว่าจะเสร็จทันเวลา
โลคีจึงต้องแก้ไขสถานการณ์
ด้วยการแปลงร่างเป็นม้าตัวเมีย ยั่วให้สวาดิลฟารีทิ้งงานกลางคัน และไล่ตามไป
จนทำให้ เทพอาชาสไลพ์เนียร์ ถือกำเนิดขึ้น
Tanngrisnir &
Tanngnjóstr : ทันน์กริสเนียร์
และ ทันน์กโยสท์ร์ แพะที่ลากราชรถของมหาเทพธอร์
ในการเดินทางไปยังปราสาทของ
พญายักษ์ฮาโลคี (Haloki)
มหาเทพธอร์ทรงแวะพักที่บ้านชาวนายากจนหลังหนึ่ง
เมื่อพวกเขาไม่มีอาหารจะถวาย
พระองค์ก็ฆ่าแพะทั้งสองตัวนี้ให้พวกเขาทำอาหารเย็น
โดยถลกหนังแยกเอาเฉพาะเนื้อไปต้ม
พร้อมกับกำชับลูกเจ้าของบ้านว่า
ทุกคนสามารถกินเนื้อแพะของพระองค์ได้อย่างเต็มที่
แต่อย่าทำให้กระดูกของพวกมันแตกแม้แต่ชิ้นเดียวเป็นอันขาด
วันรุ่งขึ้นพระองค์ก็ทรงรวบรวมกระดูกเหล่านั้น
เสกให้แพะทั้งสองคืนชีพขึ้นมาใหม่ แต่เนื่องจากลูกชายเจ้าของบ้าน
ถูกโลคียุยงให้แอบกินไขกระดูกไปบางส่วน ทำให้แพะตัวหนึ่งขาเขยกไปชั่วระยะหนึ่ง
ลูกชายเจ้าของบ้านจึงต้องกลายเป็นข้ารับใช้
ร่วมเดินทางไปกับองค์มหาเทพ เพื่อไถ่โทษ
ส่วนลูกสาวเจ้าของบ้านต้องคอยดูแลแพะอยู่ที่บ้านชาวนา จนกว่ามันจะหายดี
คนเฒ่าคนแก่ชาวนอร์สโบราณ
มักบอกลูกหลานว่า เสียงฟ้าคำรามในฤดูฝน เกิดจากเสียงฝีเท้าของแพะคู่นี้
จะเห็นได้ว่า
พวกนอร์สที่ดูเหมือนดุดัน โหดเหี้ยม จริงๆ แล้วก็มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆ
ที่หลากรส ทั้งซีเรียส น่ารัก ตลกขบขัน และใสซื่อมากครับ
……………………………
หมายเหตุ :
เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย
และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด