Friday, February 5, 2016

เบวูลฟ์ ตำนานขุนศึกโค่นอสูร





ตามสัญญานะครับ ผมจะทยอยเล่าเรื่องตำนานที่สำคัญของชาวนอร์ส ซึ่งตำนานหนึ่งที่ชาวอาซาทรูเออร์คนไหนไม่รู้ถือว่า out อย่างแรง นั่นคือ (Beowulf) ขุนศึกโค่นอสูร

เบวูล์ฟ เป็นบทกวีมหากาพย์ที่แต่งด้วยภาษาอังกฤษ แต่เล่าเรื่องราวของวีรบุรุษที่เกิดขึ้นในสแกนดิเนเวีย ไม่ปรากฏชื่อของผู้แต่งว่าเป็นใคร แต่จากรูปแบบของบทกวีและเนื้อหา ทำให้คาดได้ว่าเป็นบทลำนำพื้นบ้าน ที่ขับร้องต่อ ๆ กันมาในหมู่ชนพื้นเมือง และน่าจะมีข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์บางส่วนแฝงอยู่ในเนื้อเรื่องด้วย

งานวรรณกรรมภาษาแองโกลแซกซอนชิ้นนี้ คาดว่าแต่งขึ้นในระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 8-11 โดยมีต้นฉบับที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน ซึ่งสันนิษฐานว่า เขียนขึ้นในราวปี ค.ศ.1010 มีความยาวทั้งสิ้น 3,183 บรรทัด ซึ่งถือเป็นบทกวีที่มีความยาวมาก ได้รับยกย่องเป็นวรรณกรรมมหากาพย์แห่งอังกฤษ

เนื้อหาในบทกวี เล่าถึงวีรบุรุษชาวกีตส์ (Geats) คนหนึ่งชื่อ เบวูล์ฟ และการสู้รบกับศัตรูทั้งสามของเขา คือ เกรนเดล (Grendel) มารดาของเกรนเดล และมังกร

หลายๆ คนอาจจะงงว่า ทำไมเขียน Beowulf แต่ออกเสียงว่าเบวูล์ฟ จริงๆ แล้วคืออย่างงี้ครับ ชื่อของวีรบุรุษท่านนี้ต้องออกเสียงว่า เบ-เออ-วูล์ฟ แต่สระ eo ถือว่าเป็นสระควบ การออกเสียงจึงมักออกเพียงสองพยางค์ และเน้นน้ำหนักที่คำแรก เป็น "เบวูล์ฟ"




บทกวีเบวูล์ฟ เริ่มต้นด้วยเรื่องราวของกษัตริย์ ร็อธการ์ (Hroðgar) ผู้สร้างหอเมรัยขนาดใหญ่ชื่อ เฮร็อต (Heorot) สำหรับเป็นสโมสรของพลเมือง ทั้งองค์กษัตริย์ พระชายา และบรรดานักรบต่างพากันเฉลิมฉลองอยู่ในหอเมรัยนั้น จนกระทั่งเกรนเดลผู้ถูกขับจากชุมชนทนไม่ไหว และเข้ามาบุกทำลายหอเมรัย สังหารนักรบของร็อธการ์ระหว่างหลับเสียชีวิตไปมาก แต่เกรนเดลกลับไม่กล้าแตะต้องบัลลังก์แห่งร็อธการ์ ด้วยว่าองค์กษัตริย์นั้นได้รับการพิทักษ์จากเทพเจ้า แต่ถึงกระนั้น ร็อธการ์กับพลเมืองของพระองค์ก็จำต้องละทิ้งเฮร็อตเสีย

และเมื่อไม่มีนักรบเหลืออยู่พอจะต่อกรกับเกรนเดลได้ เมื่อร็อธการ์ได้ยินชื่อเสียงของ เบวูล์ฟ นักรบหนุ่มชาวกีตส์ จึงส่งสาส์นเชิญไปขอความช่วยเหลือจากเขา

เบวูล์ฟกับเพื่อนนักรบของเขาเดินทางออกจาก กีตส์ลันด์ (Geatsland : ปัจจุบันคือ Götaland อยู่ในสวีเดน) แผ่นดินของตนมาถึงเมืองของกษัตริย์ร็อธการ์ พวกเขาค้างคืนในเฮร็อต หลังจากพวกเขาหลับไป เกรนเดลก็เข้ามาโจมตี และสังหารคนของเบวูล์ฟไปคนหนึ่ง

ส่วนเบวูล์ฟนั้นแสร้งหลับอยู่ จึงลุกขึ้นจับแขนของเกรนเดลไว้ ทั้งสองต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงจนหอเมรัยแทบถล่มทลาย เพื่อนนักรบคนอื่นๆ ตกใจลุกขึ้น และเข้าไปช่วยเหลือ แต่ดาบของพวกเขาไม่อาจทำร้ายเกรนเดลได้เลย เพราะมันลงอาคมใส่ดาบของพวกมนุษย์ไว้ ดาบของเบวูล์ฟก็เช่นกันครับ

ในที่สุด เบวูล์ฟจึงใช้พละกำลังของเขาล็อคตัวเกรนเดล แล้วฉีกแขนของมันขาดจนถึงหัวไหล่ ก่อนกระชากจนหลุดออกจากร่าง เกรนเดลหนีกลับไปยังรังของมันได้ แต่ก็ตายในที่สุด




คืนต่อมา มีการเฉลิมฉลองใหญ่ที่เบวูล์ฟสังหารเกรนเดลได้ จากนั้นร็อธการ์กับคนของพระองค์ก็นอนในเฮร็อต แต่แล้ว มารดาของเกรนเดลปรากฏตัวขึ้นและเข้ามาทำลายหอเมรัยอีก นางสังหารนักรบฝีมือดีของร็อธการ์ที่เหลืออยู่ไปทั้งหมด เพื่อแก้แค้นให้เกรนเดล

ร็อธการ์ เบวูล์ฟ และเหล่านักรบ สะกดรอยตามมารดาของเกรนเดลไปจนถึงรังของนางซึ่งอยู่ใต้ทะเลสาบประหลาดแห่งหนึ่ง เบวูล์ฟเตรียมตัวเข้าไปรบกับนาง เขาได้รับดาบวิเศษเล่มหนึ่งจากนักรบคนหนึ่ง ดาบนั้นมีชื่อว่า รุนทิง (Hrunting) หลังจากต่อรองผลประโยชน์ตอบแทน และพินัยกรรมของเบวูล์ฟแล้ว เขาจึงดำน้ำลงไปใต้ทะเลสาบนั้น

เมื่อล่วงล้ำเข้าไป เขาก็ถูกมารดาของเกรนเดลโจมตีทันที แต่นางไม่สามารถทำอันตรายแก่เบวูล์ฟได้ เพราะเขาสวมเกราะอยู่ นางลากตัวเบวูล์ฟลงไปยังถ้ำที่ก้นทะเลสาบ ที่ซึ่งร่างของเกรนเดลและเหล่านักรบที่ปีศาจทั้งสองสังหารไปนอนแน่นิ่งอยู่ แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันอย่างหนัก




ในช่วงแรก มารดาของเกรนเดลเป็นฝ่ายได้เปรียบ เบวูล์ฟพบว่าดาบรุนทิงของเขาไม่สามารถทำอันตรายต่อนางได้เลย เขาจึงหันไปหยิบดาบขนาดใหญ่ในหมู่สรรพาวุธที่สะสมอยู่ในถ้ำ ซึ่งไม่เคยมีผู้ใดสามารถยกดาบนั้นขึ้นได้มาก่อน และตัดศีรษะนางด้วยดาบเล่มนั้น

เบวูล์ฟสำรวจลึกเข้าไปในถ้ำจนพบร่างของเกรนเดล ก็ตัดเอาศีรษะมันมาด้วย เขาเดินทางกลับออกมาสู่ผิวน้ำอีกครั้ง และเดินทางกลับไปยังเฮร็อต ร็อธการ์พระราชทานของขวัญให้แก่เขามากมาย รวมทั้งดาบ เนกลิง (Nægling) ซึ่งเป็นมรดกประจำตระกูลของพระองค์ นักรบหนุ่มจากกีตส์ลันด์ได้รับทั้งชื่อเสียง และความมั่งคั่งเป็นอันมากจากวีรกรรมครั้งนี้ละครับ

เมื่อเบวูล์ฟเดินทางกลับบ้านได้ไม่นาน เขาก็ได้เป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งกีตส์ลันด์ จนวันหนึ่งเมื่อทรงชราภาพ ทาสคนหนึ่งลอบขโมยถ้วยทองคำออกมาจากรังมังกรที่ไม่ปรากฏชื่อตัวหนึ่ง เมื่อมังกรรู้ตัวว่าถ้วยทองคำถูกขโมยไป ก็ออกตามหาด้วยความโกรธแค้น และเผาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า




เบวูล์ฟทรงเรียกประชุมเหล่านักรบของพระองค์ ให้ร่วมกันต่อสู้กับมังกร แต่ปรากฏว่ามีเพียงนักรบหนุ่มชื่อ วิกลัฟ (Viglaf) เพียงคนเดียว ที่กล้าออกไปร่วมรบเคียงไหล่กับพระราชาเฒ่า เพราะคนที่เหลือพากันหวาดกลัวกันหมดครับ ก็มนุษย์ธรรมดาที่ไหนจะหาญกล้าต่อสู้กับมังกรที่ออกมาจากถ้ำแล้วล่ะ

แต่กษัตริย์เบวูล์ฟแม้จะเข้าสู่ปัจฉิมวัยแล้ว ก็ยังไม่ทิ้งลายยอดนักรบ พระองค์สามารถสังหารมังกรได้ด้วยความช่วยเหลือของวิกลัฟ แต่พระองค์เองก็ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสจนสิ้นพระชนม์




หลังจากพิธีถวายพระเพลิงพระศพแล้ว เบวูล์ฟถูกฝังอยู่ในกีตส์ลันด์ เหนือหน้าผาที่มองออกไปสู่ท้องทะเล ซึ่งเหล่านักเดินเรือสามารถมองเห็นสุสานของพระองค์ได้

ส่วนสมบัติของมังกรนั้นเล่ากันว่าถูกฝังไปพร้อมกับพระองค์ด้วย มิได้นำออกแจกจ่ายพลเมือง เพราะมันมีคำสาปอยู่น่ะสิครับ อีกทั้งก็ถือว่าเป็นประเพณีของชาวเยอรมันและสแกนดิเนเวีย ในการฝังทรัพย์สมบัติไปพร้อมกับผู้ตายอยู่แล้ว

ครับ, ตำนานเบวูลฟ์จริงๆ มีเท่านี้ (ผมลอกเนื้อหาหลักๆ มาจาก Wikipedia) ซึ่งถ้าว่ากันตามนี้ เบวูลฟ์ก็เป็นวีรบุรุษที่ไม่มีข้อเสียอะไรครับ จัดว่าเป็นบุคคลในอุดมคติของชาวนอร์สทั้งมวล

แต่เวลานำมาสร้างเป็นหนัง ส่วนใหญ่จะมีการนำเสนอว่าเบวูลฟ์กระทำสิ่งที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิต โดยที่ไม่มีใครล่วงรู้ นั่นคือ เขาเผลอใจ (หรือไม่ก็ถูกมนต์สะกด) จนมีสัมพันธ์สวาทกับมารดาของเกรนเดล หรือบางเรื่องก็ไปมีสัมพันธ์สวาทกับแม่มดสาว ซึ่งเป็นภรรยาลับของเกรนเดล ก็อย่างที่เห็นกันในหนังที่เกี่ยวกับเบวูลฟ์ทั้งสองเรื่อง ที่ผมเขียนถึงไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ละครับ





ซึ่งในส่วนนี้ก็มาจากมุขปาฐะ หรือเรื่องเล่าพื้นบ้านเช่นกัน เป็นธรรมดาครับที่ตำนานวีรบุรุษไม่ว่าของชนชาติไหนมักจะมีด้านลบแอบแฝงอยู่ด้วยเสมอ ก็เพราะปากชาวบ้านประเภทแอนตี้ฮีโร่นี่ละครับ ยิ่งถ้าฮีโร่ได้ดิบได้ดีเป็นกษัตริย์ ยิ่งมีด้านมืดให้เล่าขานกันเพียบ



……………………………


หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

7 comments:

  1. ตกลง แองเจลิน่า โจลี่ ที่หวิวสุดๆ ใน Beowulf เวอร์ชั่นล่าสุด เป็นตัวเธอจริงๆ มั้ยคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. น่าสงสัยว่าจะไม่ 100% ครับ เพราะอย่างเบวูลฟ์ตัวจริงก็อ้วน ไม่หล่ออย่างที่เห็น

      Delete
  2. ตำนานโบราณก็สนุกดีนะคะ แต่บางทีเราก็ไม่ค่อยเข้าใจวิธีคิดหรือวัฒนธรรมของเขาเท่าไหร่ อย่างตำนานเกี่ยวกับสมบัติของมังกร ที่มีขุมทรัพย์มีค่ามหาศาลแต่ก็เป็นอาถรรพณ์แทบทุกเรื่อง หรือคนไวกิ้งเขามองว่า สมบัติเป็นสิ่งต้องห้ามหรือเปล่า

    ReplyDelete
    Replies
    1. ไวกิ้งก็เหมือนฝรั่งทั่วไปครับ คือชอบทรัพย์สมบัติ แสวงหาชื่อเสียงและความมั่งคั่ง แต่ในด้านปรัชญาพวกเขาก็มองว่าความมั่งคั่งนั้นคือกิเลสตัณหา ดังนั้นแม้แต่วีรบุรุษหากไปยุ่งกับมันเข้าก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาถรรพณ์ได้

      Delete
    2. อุดมคติของชาวไวกิ้งจึงเป็นการแสวงหาชื่อเสียงจากวีรกรรมการต่อสู้ต่างๆ มากกว่าการแสวงหาความร่ำรวย แบบที่ฝรั่งชาติอื่นๆ ชอบทำไงครับ

      Delete
  3. หนังสมัยนี้ชอบเน้นด้านมืดของฮีโร่คะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สัญชาติญาณของมนุษย์ครับ รู้ว่าตัวเองมีด้านที่เลว ก็เลยอยากให้แม้แต่ฮีโร่ก็เป็นเหมือนตัวเอง

      Delete

Note: Only a member of this blog may post a comment.