Tuesday, February 2, 2016

อาถรรพณ์แห่งแหวนวิเศษ





ผมว่าจะเขียนเรื่องนี้นานแล้วครับ เพราะเป็นตำนานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของชาวนอร์ส และเผ่าเยอรมันนิกทั้งปวง ชื่อตัวละครและเหตุการณ์ต่างๆ ที่ปรากฏในเรื่องนี้ก็จะมีการนำมาเล่าขานหรืออ้างอิง ให้พวกเราได้ยินได้ฟังกันบ่อยๆ พอๆ กับตำนานเบวูล์ฟ (Beowulf) ที่ผมกะว่าจะเล่าต่อไปจากนี้ละครับ

เรื่องมีอยู่ว่า คนแคระผู้หนึ่งชื่อ อันด์วารี (Andvari) อาศัยอยู่ใน นิเฟลเฮม ได้หลอมแหวนวิเศษขึ้นวงหนึ่ง มีชื่อเรียกตามเชื้อสายของอันด์วารีว่า นีเบลลุง (Nibelung) แหวนวงนี้มีอำนาจบันดาลให้เกิดแหวนทองคำที่มีรูปลักษณ์เดียวกันขึ้นมาได้อีก 9 วงทุกๆ คืน

ทีนี้ละครับ เมื่อโลคี ตัวป่วนแห่งอัสการ์ด มาเห็นแหวนวิเศษนี้จึงเกิดความโลภ ใช้กำลังช่วงชิงไปเป็นของตน อันด์วารีจึงสาปให้ทุกคนที่ครอบครองแหวนนี้ต้องประสบกับความหายนะ ซึ่งในที่สุดโลคีเองก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ

ด้วยคำสาปที่ติดมากับแหวน เทพอสูรผู้นี้แทนที่จะได้ดิบได้ดีอยู่ในอัสการ์ดเพราะจอมเทพโอดินทรงพอพระทัยในไหวพริบปฏิภาณของเขา ก็กลับกลายเป็นถูกลงทัณฑ์ทรมานไปชั่วกัปป์ชั่วกัลป์ แต่เพราะเขาเป็นเทพ กว่าจะประสบชะตากรรมจึงล่วงเข้ายุคสุดท้ายของโลก ซึ่งก่อนหน้านั้นแหวนได้ตกไปอยู่ในขุมสมบัติในถ้ำที่ พญามังกรฟาฟเนียร์ (Fafnir) เฝ้าอยู่

ซิกฟรีด (Siegfried) หรือ ซีเกิร์ด (Sigurd) เป็นชายหนุ่มผู้กล้าหาญ รักการผจญภัย และมีพละกำลังมหาศาลมาตั้งแต่เด็ก เขาเดินทางสั่งสมชื่อเสียงไปจนพบถ้ำที่ฟาฟเนียร์เฝ้าอยู่ และเป็นผู้สังหารมัน ตำนานซิกฟรีดสังหารมังกรนี้ ถือเป็นต้นฉบับของตำนานอัศวินกับมังกรทั่วยุโรปในเวลาต่อมาครับ




ซิกฟรีดได้พบขุมสมบัติที่ฟาฟเนียร์เฝ้าอยู่ รวมทั้งแหวนวิเศษด้วย อาถรรพณ์ของมันทำให้เขาไม่สนใจของมีค่าอื่นใด นอกจากหยิบมันมาสวม เขายังได้ทำพิธีอาบเลือดมังกรเพื่อความอยู่ยงคงกระพัน แต่ระหว่างนั้นมีใบไม้ร่วงลงไปปิดตรงหัวไหล่ด้านหลังของเขา ร่างกายส่วนนั้นจึงเป็นที่เดียวที่มิได้ชะโลมด้วยเลือดมังกร และจึงกลายเป็นจุดอ่อนของเขาไปในที่สุด

ในเวลานั้น มีวัลคีรีส์องค์หนึ่ง ชื่อว่า บรินฮิลด์ (Brynhild) เธอละเมิดคำสั่งของจอมเทพโอดินจึงถูกลงโทษให้หลับไหลอยู่ที่ ฮินด์เฟล (Hindfel) หรือหอคอยที่ล้อมรอบด้วยเปลวไฟ จนกว่าจะมีผู้กล้าหาญที่สามารถข้ามเปลวเพลิงดังกล่าวเข้าไปหาเธอ เธอจึงจะตื่นขึ้นอีกครั้งเพื่อแต่งงานกับเขาผู้นั้น และสูญเสียอำนาจของวัลคีรีส์ กลายเป็นมนุษย์ธรรมดาไปชั่วนิรันดร์

ซิกฟรีดเดินทางผจญภัยมาจนถึงฮินด์เฟล พอเห็นเปลวไฟประหลาดที่ล้อมรอบหอคอยอยู่จึงควบม้าคู่ใจของเขากระโดดข้ามกองไฟเข้าไป แล้วเมื่อขึ้นหอคอยไปก็ได้เจอกับบรินฮิลด์นานหลับอยู่ เขาจุมพิตเธอ ทำให้เธอตื่นขึ้น ทั้งสองหลงรักกันในทันทีครับ





แต่ซิกฟรีดยังต้องการผจญภัยต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง เขาจึงสัญญาว่าจะกลับมารับบรินฮิลด์ไปแต่งงานกัน โดยเอาแหวนนีเบลลุงให้บรินฮิลด์เป็นแหวนหมั้น เพราะไม่รู้ว่าเป็นแหวนที่ต้องคำสาป

ต่อมาซิกฟรีดได้เดินทางเข้าไปในอาณาจักรของกษัตริย์ กวีคี (Gjúki) ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศใต้ของแม่น้ำไรน์ กษัตริย์องค์นี้มเหสีชื่อ กริมฮิลด์ (Grimhild) ซึ่งเป็นแม่มด มีโอรสธิดาหลายองค์ แต่ที่มีบทบาทเด่นที่สุดในเทพนิยายชุดนี้คือ กุนนาร์ (Gunnar) และ กูดรุน (Gudrun)

ซิกฟรีดกับกุนนาร์กลายเป็นเพื่อนรักกัน ขณะที่กูดรุนก็หลงรักซิกฟรีด กริมฮิลด์ผู้เป็นมารดาก็อยากให้ลูกตัวเองสมหวัง จึงวางยาวิเศษที่ทำให้ซิกฟรีดลืมเรื่องของบรินฮิลด์ไป ซิกฟรีดกับกูดรุนเลยได้แต่งงานกันในที่สุดครับ นับเป็นการเริ่มต้นอาถรรพณ์แห่งแหวนนีเบลลุงที่เกิดกับมนุษย์คนแรก และอดีตวัลคีรีส์ที่ครอบครองมัน

และด้วยอาถรรพณ์ดังกล่าว ก็ทำให้กุนนาร์หลงรักบรินฮิลด์ เพียงเพราะแค่ได้ยินเรื่องราวของเธอเท่านั้นละครับ กุนนาร์ทุกข์ทรมานมากจากความลุ่มหลงครั้งนี้ ซิกฟรีดซึ่งจำไม่ได้แล้วว่าเคยรักบรินฮิลด์จึงรับปากจะช่วยเพื่อนรักให้สมหวัง

ทั้งคู่จึงพากันเดินทางไปยังฮินด์เฟล ก็พบว่าหอคอยนั้นยังคงมีกับเปลวไฟล้อมรอบอยู่ ไม่สามารถจะเข้าไปได้ ซิกฟรีดจะให้เพื่อนยืมม้าของตนข้ามกำแพงไฟไปก็ไม่ได้ เนื่องจากกุนนาร์ไม่ใช่บุรุษที่คู่ควรกับบรินฮิลด์

ซิกฟรีดจึงตัดสินใจใช้ยาอีกขนานหนึ่งของกริมฮิลด์แปลงกายเป็นกุนนาร์ แล้วควบม้าคู่ใจข้ามเปลวเพลิงไปเป็นครั้งที่สอง บรินฮิลด์ผู้น่าสงสารที่รอคอยมานานแสนนาน เมื่อเห็นว่าผู้ที่ข้ามกำแพงไฟมาได้ไม่ใช่ซิกฟรีดก็ผิดหวังอย่างที่สุดครับ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ จึงต้องยินยอมแต่งงานกับกุนนาร์ไปโดยปริยาย

เหตุการณ์ตอนนี้ ตำนานกระแสอื่นเล่าไว้แตกต่างออกไปครับ บางกระแสบอกว่าบรินฮิลด์ได้ออกจากฮินด์เฟลไปก่อนหน้านั้นแล้ว และไปเป็นราชินีที่ไอซ์แลนด์ แบบในหนังเรื่อง Curse of the Ring นั่นละครับ ซึ่งกุนนาร์ก็เป็นหนึ่งในเจ้าชายจากดินแดนต่างๆ ที่หมายปองเธอ เมื่อเธอได้พบซิกฟรีดอีกครั้ง และเห็นว่าเขาจำเธอไม่ได้ เธอจึงประกาศว่าถ้าใครเอาชนะเธอได้ในการประลอง เธอจะแต่งงานกับเขาผู้นั้น ซึ่งซิกฟรีดก็ปลอมตัวเป็นกุนนาร์ไปประลองกับบรินฮิลด์จนได้ชัยชนะครับ




ซึ่งทุกตำนานก็กล่าวว่า กุนนาร์ตัวปลอมได้แลกแหวนกับบรินฮิลด์เป็นสัญญาหมั้น แหวนนีเบลลุงจึงหวนกลับคืนสู่ซิกฟรีดอีกครั้ง

ต่อมา ฤทธิ์ยาที่กริมฮิลด์สะกดซิกฟรีดไว้เสื่อมลง ซิกฟรีดจึงนึกออกว่าเคยรัก และสัญญาอะไรไว้กับบรินฮิลด์ แต่มันก็สายไปแล้วละครับ เพราะบรินฮิลด์ได้แต่งงานกับกุนนาร์ไปเสียแล้ว

ซิกฟรีดจึงไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เขาได้แต่เล่าเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้กูดรุนภรรยาของเขาฟัง และมอบแหวนนีเบลลุงให้เธอเก็บรักษาไว้

ส่วนกูดรุน พอรู้ความจริงเช่นนั้นก็เห็นว่าบรินฮิลด์เป็นมารหัวใจ วันหนึ่งจึงเยาะเย้ยบรินฮิลด์ว่า คนที่ฝ่าเปลวไฟไปหาบรินฮิลด์ไม่ใช่กุนนาร์ แต่เป็นซิกฟรีดที่ปลอมตัวเป็นกุนนาร์นั่นเอง และยังเอาแหวนนีเบลลุงมายืนยันคำพูดด้วย

บรินฮิลด์ทั้งเสียใจและโกรธอย่างที่สุด แม้ซิกฟรีดจะอธิบายกับเธอว่าตอนนั้นเขาต้องมนต์ของกริมฮิลด์อยู่ หรือเขาพร้อมที่จะไปจากกูดรุนแล้วแต่งงานใหม่กับเธอ แต่บรินฮิลด์ก็ไม่ยอมรับฟังสิ่งใด ความรักความหวังที่เคยทุ่มเทกลายเป็นความเคียดแค้นอย่างไม่อาจอภัยได้ เธอเตรียมการที่จะแก้แค้นซิกฟรีด โดยแกล้งบอกกุนนาร์ว่าตอนที่ซิกฟรีดแปลงกายเป็นกุนนาร์นั้น เธอได้สูญเสียพรหมจารีย์ให้กับเขาแล้ว

กุนนาร์โกรธมาก ลืมความเป็นเพื่อนร่วมน้ำสาบานทุกอย่าง เขาให้น้องชายคนเล็ก กุททอร์ม (Guttorm) ไปลอบสังหารซิกฟรีด กุททอร์มใช้ดาบแทงซิกฟรีดตอนหลับ ซิกฟรีดซึ่งยังไม่ตายในทันทีลุกขึ้นมาสังหารกุททอร์มตายคาที่

กูดรุนตกใจตื่นมาเห็นซิกฟรีดกำลังจะตายก็แทบคลั่ง แต่ซิกฟรีดกลับปลอบภรรยาของตนอย่างสงบก่อนจะสิ้นใจ ไม่นานต่อมางานศพของซิกฟรีดก็ถูกจัดขึ้น




เหตุการณ์ช่วงนี้ บางตำนานบอกว่ากุททอร์มลอบสังหารซิกฟรีดตอนออกไปล่าสัตว์ครับ โดยพุ่งหอกใส่เขาขณะที่เขากำลังดื่มน้ำในลำธาร ซึ่งใน Curse of the Ring ก็นำเสนอตามนี้ละครับ กุททอร์มรู้จุดอ่อนของซิกฟรีดเป็นอย่างดี เพราะซิกฟรีดเคยบอกกุนนาร์ไว้นั่นเอง

ในงานศพของซิกฟรีด บรินฮิลด์กล่าวกับกุนนาร์ว่าเรื่องที่ซิกฟรีดหลับนอนกับตนนั้นเป็นเรื่องโกหก และสาปว่ากุนนาร์กับเชื้อพระวงศ์คนอื่นๆ จะต้องประสบกับโศกนาฏกรรมด้วยกันทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากนั้นเธอก็สังหารบุตรของซิกฟรีดกับกูดรุน ก่อนจะเชือดคอตายตาม




ตำนานกล่าวว่า ศพของบรินฮิลด์ถูกฝังด้วยกันกับซิกฟรีด ซึ่งจากที่ชาวนอร์สเล่าขานกันทั่วไป พิธีศพของซิกฟรีดนั้นจัดขึ้นตามอย่างวีรบุรุษ คือบรรจุในเรือแล้วจุดไฟเผา ซึ่งบรินฮิลด์ก็โจนเข้าไปในกองไฟนั้นละครับ กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ตราตรึงในจิตใจของชาวยุโรปทั้งปวงมาจนทุกวันนี้


ส่วนแหวนนีเบลลุงก็ได้ผ่านมือกูดรุนไปยังคนอื่นๆ และทำให้เกิดหายนะกับทุกคนที่ครอบครองมัน รวมทั้งกุนนาร์และเชื้อพระวงศ์ทั้งหมดด้วย ก่อนที่มันจะจมหายไปในแม่น้ำไรน์ และไม่มีใครได้พบอีกเลย



……………………………



หมายเหตุ : เนื้อหาในบทความนี้ มีลิขสิทธิ์ ใครจะนำไปใช้อ้างอิงที่ใด ไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่ง หรือทั้งหมด จะต้องระบุ URL ของแต่ละบทความด้วย และห้ามนำไปใช้เพื่อการค้าโดยเด็ดขาด

10 comments:

  1. น่าจะมีใครจัดเต็มเจ้าคนแคระนะคะไม่รู้จะสร้างขึ้นมาทำไม

    ReplyDelete
    Replies
    1. แหมๆ เป็นคนแคระก็ต้องชอบสร้างโน่นสร้างนี่ไว้เรื่อยๆ ละครับ เหตุมันเกิดเพราะโลคีเข้ามายุ่งต่างหาก ^ ^

      Delete
  2. โศกนาฎกรรมโรแมนติก เอามาสร้างหนังทีไรคนก็ชอบ

    ReplyDelete
    Replies
    1. แต่มันไม่ drama แบบที่อเมริกันชอบ เลยต้องรอค่ายหนังทางยุโรปอย่างเดียวเลยครับ ที่ผ่านมาก็มีน้อย version จริงๆ

      Delete
  3. เพราะแหวนวงเดียวแท้ๆ

    ReplyDelete
    Replies
    1. กิเลสตัณหาของคนก็เป็นตัวจักรสำคัญด้วยครับ

      Delete
  4. เรื่องแบบนี้ชอบอ่านๆ ตั้งตารอเรื่องต่อไปอยู่นะเจ้าคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ตั้งตารอไม่ดีครับอาจจะกลายเป็นตาค้าง เพราะผมศิลปินครับโพสต์ตามอารมณ์ ฮี่ๆๆๆ

      Delete
  5. Curse of The Ring ถ่ายทอดตำนานนี้ออกมาได้ตรงเป๊ะเว่อร์ค่ะ เข้าใจความรู้สึกของทุกตัวละครเลย ว่าพลังของแหวนมันทำงานกับกิเลสตัณหาของคนทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นรักที่บริสุทธิ์์รึว่ารักที่เห็นแก่ตัว

    ReplyDelete
    Replies
    1. ใช่ครับ กิเลสมนุษย์มันเริ่มตั้งแต่ซิกฟรีดสร้างวีรกรรมด้วยการฆ่ามังกร วีรกรรมเลยกลายเป็นวีรเวรเพราะแหวนต้องคำสาปได้มีโอกาสทำงานจากจุดนี้เอง

      Delete

Note: Only a member of this blog may post a comment.